แผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) – นำทางเว็บไซต์ของคุณ อัพเดต 2024

SITEMAP เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ ให้ภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างและการจัดระเบียบของไซต์ ทำให้ง่ายต่อการนำทางสำหรับทั้งผู้เยี่ยมชมและเครื่องมือค้นหา

ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา ฉันเข้าใจดีว่าไซต์ของคุณมีส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อเพิ่มการแสดงผลทางออนไลน์ให้สูงสุดนั้นมีความสำคัญเพียงใด นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับSITEMAPและวิธีที่คุณสามารถใช้อย่างมีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์ของคุณเอง

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงประเภทต่างๆ ของSITEMAPที่มี รวมถึงข้อดีที่มีให้เมื่อติดตั้งอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ เราจะกล่าวถึงเคล็ดลับในการสร้างSITEMAPที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และปรับปรุงความพยายาม SEO โดยรวมของคุณ

ในตอนท้ายของบทความนี้ คุณควรมีความเข้าใจที่ดีขึ้นว่าเหตุใดการมีSITEMAPจึงมีประโยชน์มาก และมีความรู้ที่จำเป็นในการสร้างSITEMAPด้วยตัวคุณเอง!

SITEMAP คืออะไร?

SITEMAP เป็นส่วนสำคัญของสถาปัตยกรรมของเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้ใช้ บอตเครื่องมือค้นหา และเทคโนโลยีอื่นๆ มองเห็นภาพรวมของเนื้อหา การจัดระเบียบ และโครงสร้างของไซต์ เพื่อให้พวกเขาสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เยี่ยมชมแล้ว ยังช่วยให้หน้าเว็บของคุณได้รับการจัดทำดัชนีในเครื่องมือค้นหาหลัก ๆ เช่น Google, Bing และ Yahoo!

เมื่อสร้าง SITEMAP  คุณต้องพิจารณาทั้งด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) และความสามารถในการใช้งาน รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO  SITEMAP มีหลายประเภท รวมถึง XML, HTML และแบบข้อความซึ่งให้รายละเอียดระดับต่างๆ เกี่ยวกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ

ตัวอย่างเช่น  SITEMAP  XML ถูกใช้โดยเครื่องมือค้นหาเป็นหลักในการจัดทำดัชนี URL ที่มีอยู่ทั้งหมดบนเว็บไซต์ ในขณะที่ SITEMAP  HTML ทำหน้าที่เป็นไดเร็กทอรีที่ช่วยให้ผู้ที่เรียกดูไซต์สามารถสำรวจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

 SITEMAP มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณทางออนไลน์ ช่วยให้มั่นใจว่าหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายในโดเมนได้รับการรวบรวมข้อมูลโดยซอฟต์แวร์รวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหา เพื่อให้สามารถรวมไว้ในผลลัพธ์ SERP ได้

การมีแผนที่ที่ครอบคลุมของเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณยังช่วยให้ผู้คนสำรวจผ่านเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากพวกเขาทราบแน่ชัดว่าแต่ละหน้าลิงก์ไปที่ใดโดยไม่ต้องคลิกไปมามากเกินไป

Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์คือไฟล์ XML ที่มีรายการเชิงลึกของเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ เช่น ลิงก์ของหน้าเว็บไซต์ โพสต์บล็อก หน้าสินค้า และอื่นๆ โดยที่แผนผังเว็บไซต์นี้จะช่วยให้เครื่องมือการค้นหา เช่น Google สามารถสรุปเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้อง และสามารถค้นหาและแสดงผลลัพธ์ในการค้นหาได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้แผนผังเว็บไซต์ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำทางเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วย

ประโยชน์ของ Sitemap

 SITEMAP เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ใดๆ โดยจัดเตรียมโครงสร้างและการจัดระเบียบที่ช่วยให้ผู้เข้าชมพบสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้เครื่องมือค้นหาจัดทำดัชนีหน้าทั้งหมดบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น นี่คือเหตุผลที่คุณควรรวมไว้ในไซต์ของคุณ:

อันดับแรก การสร้าง SITEMAP ทำให้ผู้ใช้ไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องคลิกผ่านหลายลิงก์หรือค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ ซึ่งหมายถึงความยุ่งยากน้อยลงสำหรับพวกเขาและเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าจากร้านค้าของคุณหรือสมัครใช้บริการของคุณ

นอกจากนี้ ด้วย SITEMAP ที่ออกแบบมาอย่างดี คุณจะสามารถติดตามโฟลว์และพฤติกรรมของผู้ใช้ในพื้นที่ต่างๆ ของไซต์ของคุณ ทำให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับไซต์นั้น

จากมุมมองของ SEO การมีรายการ URL ที่ครอบคลุมและแม่นยำช่วยให้บอทเครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เนื้อหาของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งนำไปสู่การมองเห็นที่ดีขึ้นใน SERP (หน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา) นอกจากนี้ การรวมข้อมูลเมตา เช่น วันที่แก้ไขล่าสุดภายในแต่ละ URL ช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาที่พวกเขาเข้าชมก่อนเมื่อเข้าชมเว็บไซต์บ่อยๆ Crawling and Indexing

กล่าวโดยย่อ  SITEMAP ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บอย่างรวดเร็วแก่ทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์

สรุปแล้ว การรวม SITEMAP เข้ากับการออกแบบเว็บไซต์ของคุณมีข้อดีมากมาย ตั้งแต่การปรับปรุงความสามารถในการใช้งานและช่วยให้ผู้เยี่ยมชมค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยในการทำ SEO โดยอนุญาตให้บอทของเครื่องมือค้นหาเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างเต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสร้าง SITEMAP ก็ง่ายเช่นกัน มีเครื่องมือมากมายที่สามารถสร้าง SITEMAP  XML โดยอัตโนมัติ ดังนั้นทุกคนสามารถตั้งค่าของตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็ว!

Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์มีประโยชน์สำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์และผู้ใช้งานเว็บไซต์ดังนี้

1. ช่วยให้เครื่องมือการค้นหาเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์: Sitemap ช่วยให้เครื่องมือการค้นหา เช่น Googlebot เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น และทำให้การค้นหาผลลัพธ์ที่แม่นยำและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
2. เพิ่มความสะดวกในการนำทางเว็บไซต์: Sitemap ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำทางเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย เช่น จากแผนผังเว็บไซต์ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปยังหน้าสินค้าหรือบทความในเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย
3. ช่วยให้การดัดแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น: Sitemap ช่วยให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ทำการดัดแปลงหรือเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Sitemap จะช่วยอัปเดตการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เกิดผลในเวลาอันรวดเร็ว Breadcrumb

คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO สายเทา ได้จากโพสด้านล่างนี้ครับ:

ประเภทของ SITEMAP

 SITEMAP เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเว็บไซต์ โดยจัดเตรียมโครงสร้างและการจัดระเบียบสำหรับผู้ใช้เพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาจัดทำดัชนีเนื้อหาบนหน้าเว็บของคุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

 SITEMAP มีสองประเภท: XML และ HTML

 SITEMAP  XML ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแต่ละหน้าในเว็บไซต์ในรูปแบบโครงสร้างที่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถอ่านได้ ซึ่งช่วยให้ระบุ URL ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งข้อมูลเมตาเพิ่มเติม เช่น เวลาที่อัปเดตล่าสุดหรือความถี่ที่เปลี่ยนแปลง ประโยชน์หลักของ SITEMAP  XML คือช่วยให้ผู้ดูแลเว็บสามารถแจ้งเครื่องมือค้นหาเกี่ยวกับ URL ใหม่หรือที่เปลี่ยนแปลงได้

 SITEMAP  HTML มีเครื่องมือนำทางที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เข้าชมเพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องคลิกผ่านหลายหน้า ซึ่งมักจะประกอบด้วยลิงก์ที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อให้ผู้คนสามารถข้ามจากส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนได้โดยตรง  SITEMAP  HTML มีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณมีหน้าเว็บจำนวนมากในไซต์ของคุณ เนื่องจากช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

โดยสรุป ทั้ง XML และ HTML sitemaps มีจุดประสงค์ต่างกัน แต่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และประสิทธิภาพของ SEO ในท้ายที่สุด ไม่ควรมองข้ามเมื่อออกแบบเว็บไซต์เนื่องจากมีข้อดีมากมาย

มีประเภทของ Sitemap 2 ประเภท ดังนี้

1. XML Sitemap: เป็นประเภทของ Sitemap ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เครื่องมือการค้นหา เช่น Googlebot เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ และนำไปใช้ในการแสดงผลลัพธ์การค้นหา ประกอบด้วย URL ของหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้า โดยมีการกำหนดความสำคัญ ความถี่ในการอัปเดต และการบอกวันเวลาของการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหา
2. HTML Sitemap: เป็นแผนผังเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดย HTML Sitemap จะประกอบไปด้วยลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังทุกหน้าเว็บไซต์ และถูกจัดเรียงเป็นลำดับที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้งาน

เพิ่มประสิทธิภาพ Sitemap ของคุณ

เมื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SITEMAP  สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาทั้งฟังก์ชันและโครงสร้างของแผนผัง การมีเว็บไซต์ที่มีโครงสร้างดีทำให้ผู้ใช้ไปยังส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาในการจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณ

เพื่อให้แน่ใจว่าไซต์ของคุณมีโครงสร้างที่ถูกต้องและง่ายต่อการรวบรวมข้อมูล มีองค์ประกอบหลักหลายประการที่คุณควรใส่ใจ: ลำดับชั้นของหน้า โครงสร้างการเชื่อมโยง การเพิ่มประสิทธิภาพ URL เมตาแท็ก และแอตทริบิวต์แท็ก XML

ขั้นแรก ให้มุ่งเน้นที่การสร้างลำดับชั้นของเพจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการจัดระเบียบเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้เช่นเดียวกับการรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหา คุณต้องการให้เนื้อหาแต่ละหมวดหมู่เชื่อมโยงกันในลักษณะที่ผู้เข้าชมสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องคลิกมากเกินไป นอกจากนี้ พยายามอย่าให้มีเกินสามระดับในส่วนที่กำหนด สิ่งที่ลึกกว่านั้นจะต้องมีการนำทางที่มากเกินไปซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้สับสนหรือละทิ้ง

ในแง่ของโครงสร้างการเชื่อมโยงระหว่างหน้า ต้องแน่ใจว่าลิงก์ชี้กลับไปกลับมาจากส่วนหลัก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจากจุด A ไป B ได้อย่างรวดเร็วหากจำเป็น นอกจากนี้ ลองใช้คีย์เวิร์ด (Keyword)ในจุดยึดลิงก์ตามความเหมาะสม แทนที่จะใช้วลีทั่วไป เช่น “คลิกที่นี่” หรือ “อ่านเพิ่มเติม” ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่า SEO เนื่องจากคำเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจุดยึดข้อความเมื่อรวบรวมข้อมูล

ขั้นสุดท้าย ใช้เวลาในการเพิ่มประสิทธิภาพ URL เอง – ให้สั้นแต่สื่อความหมายเพียงพอที่ผู้เข้าชมจะรู้ว่าเนื้อหาประเภทใดอยู่ข้างหน้าก่อนที่จะคลิกผ่าน การทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้จะสร้างประสบการณ์ที่คล่องตัวสำหรับทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ!

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Sitemap ของคุณ นี่คือวิธีที่คุณสามารถทำได้:

1. สร้าง XML Sitemap ที่ถูกต้อง: ต้องแน่ใจว่า XML Sitemap ของคุณถูกสร้างด้วยโครงสร้างที่ถูกต้องตามมาตรฐาน โดยต้องรวมถึง URL ของทุกหน้าเว็บไซต์ และปรับปรุงเนื้อหาใหม่ๆ ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
2. เพิ่ม Sitemap ลงในไฟล์ robots.txt: เพิ่มลิงค์ของ Sitemap ของคุณลงในไฟล์ robots.txt เพื่อช่วยให้เครื่องมือการค้นหาสามารถค้นหา Sitemap ของคุณได้อย่างถูกต้องและเร็วขึ้น
3. อัปเดต Sitemap อย่างสม่ำเสมอ: อัปเดต Sitemap ของคุณเมื่อมีการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์ โดยควรอัปเดตโครงสร้าง Sitemap ของคุณเพื่อรวม URL ใหม่ล่าสุด
4. ส่ง Sitemap ไปยังเครื่องมือการค้นหา: ส่ง Sitemap ของคุณไปยังเครื่องมือการค้นหา เช่น Google Search Console เพื่อช่วยให้เครื่องมือการค้นหาเข้าใจและแสดงผลลัพธ์การค้นหาในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและเร็วขึ้น
5. ใช้ CDN: การใช้ CDN จะช่วยลดเวลาโหลดของ Sitemap ของคุณ โดยทำการเก็บ Sitemap ไว้ในเครือข่าย CDN เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Sitemap ได้อย่างรวดเร็ว

การสร้าง SITEMAP พื้นฐาน

เมื่อ SITEMAP ของคุณได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มสร้าง SITEMAP

 SITEMAP พื้นฐานจะแสดงโครงสร้างของเว็บไซต์และสามารถสร้างได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดของเว็บไซต์และความซับซ้อนของเว็บไซต์

วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการสร้าง SITEMAP พื้นฐานคือการแมปแต่ละหน้าบนเว็บไซต์โดยใช้เอกสาร XML หรือสเปรดชีต สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการนำทางผ่านแต่ละหน้าและช่วยให้ผู้เยี่ยมชมค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้  SITEMAP ประเภทนี้ยังให้ข้อมูลโดยละเอียดแก่เครื่องมือค้นหาเกี่ยวกับวิธีที่หน้าเว็บเชื่อมโยงกันภายในเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อสร้าง SITEMAP พื้นฐาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รวมหน้าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตเนื้อหา เช่น บล็อกโพสต์ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ รายละเอียดการติดต่อ ฯลฯ เพื่อให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถค้นพบได้อย่างง่ายดาย

ตรวจสอบว่าคุณระบุ URL ที่ถูกต้องและรวมองค์ประกอบหลักอื่นๆ เช่น เมตาแท็ก ซึ่งช่วยอธิบายแต่ละหน้าได้ดีขึ้น เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะมีมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเว็บไซต์ของคุณในทันที!

นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการสร้าง Sitemap โดยใช้โปรแกรม Notepad หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความอื่น ๆ:

1. สร้างไฟล์เปล่าในโปรแกรม Notepad
2. ป้อน XML declaration ลงไปในไฟล์ดังนี้:

xmlCopy code<?xml version="1.0" encoding="UTF-8"?>

3. ป้อน root element ลงไปในไฟล์ดังนี้:

phpCopy code<urlset xmlns="http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9">

4. เพิ่ม URL ของเว็บไซต์ลงไปในไฟล์ โดยมีรูปแบบดังนี้:

phpCopy code<url>
  <loc>http://www.example.com/</loc>
  <lastmod>2019-05-01</lastmod>
  <changefreq>monthly</changefreq>
  <priority>1.0</priority>
</url>

• <loc>: ระบุ URL ของหน้าเว็บไซต์
• <lastmod>: ระบุวันที่เปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดบนหน้าเว็บไซต์นี้
• <changefreq>: ระบุความถี่ของการเปลี่ยนแปลงบนหน้าเว็บไซต์นี้ เช่น always, hourly, daily, weekly, monthly, yearly, never
• <priority>: ระบุความสำคัญของหน้าเว็บไซต์นี้ต่อเว็บไซต์ทั้งหมด

5. ปิด root element ลงไปในไฟล์ดังนี้:

bashCopy code</urlset>

6. บันทึกไฟล์เป็นชื่อไฟล์ sitemap.xml

หลังจากทำการสร้าง Sitemap เสร็จสิ้น คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ Sitemap.xml ของคุณไปยังเว็บไซต์ของคุณ และเพิ่มลิงค์ของ Sitemap.xml ในไฟล์ robots.txt ของคุณ ด้วยการเพิ่มบรรทัดนี้:

arduinoCopy codeSitemap: http://www.example.com/sitemap.xml

เทคนิค SITEMAP ขั้นสูง

การสร้าง SITEMAP ที่ครอบคลุมเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์ใดๆ แต่มีเทคนิคขั้นสูงบางอย่างที่คุณควรพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ของคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในส่วนนี้ เราจะสำรวจว่าการเพิ่มองค์ประกอบเฉพาะภายใน SITEMAP สามารถปรับปรุงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของไซต์ได้อย่างไร

วิธีที่ดีในการเพิ่มความสามารถในการใช้งานคือการใส่เส้นทาง ‘breadcrumb’ ในแต่ละหน้าของไซต์ของคุณ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถเลื่อนระดับสำรองได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคลิกผ่านเมนูหรือแท็บหลายรายการ ทำให้ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ การใส่ชื่อที่มีคีย์เวิร์ด (Keyword)จำนวนมากสำหรับทุกหน้าจะช่วยให้เครื่องมือค้นหาจัดทำดัชนีหน้าของคุณได้ดีขึ้น ปรับปรุงการมองเห็นและเพิ่มอันดับในหมู่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในท้ายที่สุด

ด้วยการใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ คุณสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองได้ด้วยการทำให้มั่นใจว่าทั้งมนุษย์และเครื่องจักรเข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณอย่างชัดเจน

ด้วยการนำทางที่ง่ายดายและผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาที่แม่นยำ เว็บไซต์ของคุณพร้อมที่จะให้บริการผู้เยี่ยมชมรายใหม่ด้วยข้อมูลที่พวกเขาอาจต้องการ!

นี่คือเทคนิค Sitemap ขั้นสูงที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Sitemap ของคุณ:

1. ใช้ Dynamic Sitemap: ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่มีการอัปเดตอยู่เป็นประจำ คุณควรใช้ Dynamic Sitemap ที่จะอัปเดตและสร้าง Sitemap ใหม่ๆ โดยอัตโนมัติเมื่อมีการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์
2. ใช้ Sitemap Index: ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีจำนวนหน้าเยอะมาก คุณสามารถใช้ Sitemap Index เพื่อแยก Sitemap เป็นหลายไฟล์ และช่วยให้การเรียกใช้ Sitemap ของคุณเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพ
3. ปรับแต่งความถี่ในการอัปเดต Sitemap: ปรับแต่งความถี่ในการอัปเดต Sitemap ของคุณตามความเหมาะสม โดยให้อัปเดต Sitemap เมื่อมีการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์
4. รวม Sitemap จากหลายๆ โดเมน: หากเว็บไซต์ของคุณมีหลายโดเมน คุณสามารถรวม Sitemap จากหลายๆ โดเมนไว้ในไฟล์เดียวกัน เพื่อลดความซับซ้อนและความยุ่งเหยิงในการจัดการ Sitemap
5. ใช้ Sitemap Generator: ใช้ Sitemap Generator เพื่อสร้าง Sitemap อัตโนมัติ โดยโปรแกรมจะสแกนเว็บไซต์ของคุณและสร้าง Sitemap ที่ถูกต้องและครบถ้วน

SITEMAP  HTML

การสร้าง SITEMAP  HTML เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นและเป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา ให้ผู้ใช้เห็นภาพโครงสร้างของไซต์ของคุณ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุได้อย่างรวดเร็วว่าต้องการไปที่ไหนหรือต้องการข้อมูลใด

การจัดระเบียบประเภทนี้ยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงอันดับของคุณในผลการค้นหาได้ เมื่อสร้าง SITEMAP  HTML สิ่งสำคัญคือต้องรวม URL ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้ในเพจที่คุณสร้าง

นอกจากนี้ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละ URL เชื่อมโยงไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง สิ่งนี้ช่วยให้ทั้งผู้เยี่ยมชมและโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถนำทางจากส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ไปยังส่วนอื่นได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ หากคุณมีเนื้อหาไดนามิกใดๆ บนเว็บไซต์ เช่น ฟีดบล็อก อย่าลืมอัปเดตเป็นประจำเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงแสดงใน SITEMAP ทันที

คุณควรติดตามว่าคุณอัปเดต SITEMAP และตรวจหาลิงก์เสียบ่อยเพียงใด การทำเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะเข้าสู่หน้าเว็บที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอเมื่อพวกเขาเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ การคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ในขณะที่สร้าง SITEMAP  HTML ที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความมหัศจรรย์ในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และประสิทธิภาพของ SEO

Sitemap HTML เป็นแผนผังเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดย HTML Sitemap จะประกอบไปด้วยลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังทุกหน้าเว็บไซต์ และถูกจัดเรียงเป็นลำดับที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้งาน

การสร้าง Sitemap HTML นั้นเป็นงานที่สามารถทำได้ด้วยโปรแกรมแก้ไข HTML หรือโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บไซต์ โดยสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. สร้างไฟล์ HTML ว่างๆ โดยใช้โปรแกรมแก้ไข HTML หรือโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บไซต์
2. จัดรูปแบบของ Sitemap ด้วย HTML tag ต่างๆ เพื่อเป็นแผนผังของเว็บไซต์ โดยควรรวมลิงก์ไปยังทุกหน้าเว็บไซต์ใน Sitemap
3. กำหนดลักษณะและการจัดเรียงของ Sitemap ให้เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งาน เช่น แบ่ง Sitemap เป็นกลุ่มหมวดหมู่ หรือ กำหนดลักษณะการเรียงลำดับลิงก์
4. เพิ่มลิงก์ของ Sitemap HTML ลงในหน้าเว็บไซต์ของคุณ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Sitemap ได้อย่างง่ายดาย

การสร้าง Sitemap HTML จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ

Xml  SITEMAP

 SITEMAP  XML เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา ผู้ดูแลเว็บ และโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหา เป็นไฟล์ประเภทพิเศษที่แจ้งเครื่องมือค้นหาเมื่อคุณเพิ่มหน้าใหม่หรือหน้าอัปเดตลงในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้สามารถจัดทำดัชนีได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งกระบวนการจัดทำดัชนีเร็วขึ้นเท่าใด การมองเห็นไซต์ของคุณในการค้นหาทั่วไปก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

พูดง่ายๆ ก็คือ  SITEMAP เปรียบเสมือนแผนที่นำทางของเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งช่วยให้ Google ค้นหาหน้าที่สำคัญทั้งหมดบนไซต์ของคุณและรวบรวมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การสร้าง SITEMAP  XML อาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่มีเครื่องมืออัตโนมัติมากมายที่พร้อมใช้งานทางออนไลน์ซึ่งทำให้งานนี้ง่ายขึ้นมาก บริการเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยในการสร้างแผนที่เริ่มต้นเท่านั้น แต่บางบริการยังเสนอคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ของคุณ Hreflang

เมื่อสร้างแล้ว การส่งไฟล์ไปยัง Google Search Console ก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลสามารถเริ่มรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง

 SITEMAP เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการติดตามว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป และรับรองว่าทุกอย่างเป็นปัจจุบันจากทั้งมุมมองประสบการณ์ของผู้ใช้ และทำให้ตัวเองอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหาทั่วไป พวกเขาช่วยเราประหยัดเวลาโดยช่วยให้เราเข้าใจว่าอะไรจำเป็นต้องอัปเดตหรือจัดเรียงใหม่บนเว็บไซต์ของเรา ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเรายังคงปรากฏอยู่ในเครื่องมือค้นหายอดนิยมด้วย

XML Sitemap เป็นไฟล์ XML ที่ใช้ในการแสดงรายการ URL ของเว็บไซต์ทั้งหมด โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ Search Engine สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย และเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ในขณะที่มีการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น Google Search Console

การสร้าง XML Sitemap สามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมแก้ไขข้อความหรือ XML editor ต่างๆ โดยสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. สร้างไฟล์ XML ว่างๆ โดยใช้โปรแกรมแก้ไขข้อความหรือ XML editor
2. ใส่ XML declaration ลงไปในไฟล์ดังนี้:

xmlCopy code<?xml version="1.0" encoding="UTF-8"?>

3. ใส่ root element ลงไปในไฟล์ดังนี้:

phpCopy code<urlset xmlns="http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9">

4. เพิ่ม URL ของเว็บไซต์ลงไปในไฟล์ โดยมีรูปแบบดังนี้:

phpCopy code<url>
  <loc>http://www.example.com/</loc>
  <lastmod>2019-05-01</lastmod>
  <changefreq>monthly</changefreq>
  <priority>1.0</priority>
</url>

• <loc>: ระบุ URL ของหน้าเว็บไซต์
• <lastmod>: ระบุวันที่เปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดบนหน้าเว็บไซต์นี้
• <changefreq>: ระบุความถี่ของการเปลี่ยนแปลงบนหน้าเว็บไซต์นี้ เช่น always, hourly, daily, weekly, monthly, yearly, never
• <priority>: ระบุความสำคัญของหน้าเว็บไซต์นี้ต่อเว็บไซต์ทั้งหมด

5. ปิด root element

รูปภาพ SITEMAP

ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้าง SITEMAP ที่มีประสิทธิภาพ  SITEMAP รูปภาพก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เครื่องมือค้นหาเกี่ยวกับรูปภาพที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของคุณ และอาจส่งผลต่อความเร็วในการจัดทำดัชนีรูปภาพเหล่านั้นโดยโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหา

เมื่อใช้อย่างถูกต้อง  SITEMAP รูปภาพสามารถช่วยให้แน่ใจว่ารูปภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมอยู่ในผลการค้นหาสำหรับผู้ใช้ที่อาจกำลังมองหารูปภาพเหล่านั้น เพิ่มการมองเห็นไซต์ของคุณพร้อมทั้งให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีคุณค่า

การสร้าง SITEMAP รูปภาพต้องใช้ความคิดและการวางแผน: คุณต้องระบุประเภทของสื่อที่คุณต้องการรวม (เช่น ภาพถ่าย วิดีโอ) รูปแบบไฟล์ที่ใช้ (เช่น JPG, PNG) ตำแหน่งของแต่ละไฟล์ในเว็บไซต์ของคุณ และข้อมูลเมตาเพิ่มเติมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละรายการ (เช่น คำอธิบายภาพหรือชื่อเรื่อง)

จากนั้นควรเพิ่มข้อมูลทั้งหมดนี้ลงในเอกสาร XML ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับ SITEMAP รูปภาพ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถค้นหาและจัดทำดัชนีรายการเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเมื่อมีคนค้นหาเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อสร้างแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องอัปเดต SITEMAP รูปภาพของคุณเป็นประจำทุกครั้งที่คุณเพิ่มรูปภาพใหม่หรือเปลี่ยนแปลงรูปภาพที่มีอยู่ เพื่อให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับรูปภาพของเว็บไซต์ของคุณได้เสมอ

เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่าเวลาในการจัดทำดัชนีสำหรับภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเร็วขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลการค้นหาที่ครอบคลุมมากขึ้นและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกอุปกรณ์

รูปภาพ Sitemap คือการแสดงผังเว็บไซต์ในรูปแบบของแผนที่ ด้วยการนำเนื้อหาของเว็บไซต์ไปแสดงในรูปแบบภาพ โดยใช้เครื่องมือสร้างผังเว็บไซต์ เช่น Visio, LucidChart, หรือ ConceptDraw ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย

การสร้างรูปภาพ Sitemap สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ลงบนกระดาษหรือไฟล์ Word โดยใช้รูปแบบของแผนที่
2. ใช้เครื่องมือสร้างแผนที่เว็บไซต์ เช่น Visio, LucidChart, หรือ ConceptDraw เพื่อสร้างรูปภาพ Sitemap ใหม่โดยใช้โครงสร้างของเว็บไซต์ที่ได้วางไว้ในขั้นตอนก่อนหน้า
3. ออกแบบโครงสร้างของรูปภาพ Sitemap โดยใช้สีและเทคนิคการเรียงลำดับเพื่อเป็นการแสดงผังเว็บไซต์ในรูปแบบภาพ
4. แทรกรูปภาพ Sitemap ลงในเว็บไซต์ของคุณ โดยสามารถใช้โค้ด HTML เพื่อแทรกรูปภาพลงในหน้าเว็บไซต์ Canonical Tag

การสร้างรูปภาพ Sitemap จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เข้าถึงเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นด้วยการแสดงผังของเว็บ

SITEMAP วิดีโอ

เมื่อพูดถึงความสำคัญของ SITEMAP รูปภาพแล้ว ตอนนี้เรามาเน้นที่สิ่งที่คู่กัน:  SITEMAP วิดีโอ  SITEMAP วิดีโอก็เหมือนกับ SITEMAP รูปภาพ แต่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาค้นพบวิดีโอและไฟล์เสียงที่อาจฝังอยู่ในเว็บไซต์

พวกเขาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละไฟล์โดยการให้ชื่อเรื่อง คำอธิบาย ภาพขนาดย่อ และข้อมูลเมตาอื่นๆ ซึ่งช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาสามารถจัดทำดัชนีเนื้อหาของคุณได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นข่าวดีหากคุณต้องการให้วิดีโอหรือคลิปเสียงของคุณปรากฏในผลการค้นหาอันดับสูงสุด

กระบวนการสร้าง SITEMAP วิดีโอไม่แตกต่างจากการสร้าง SITEMAP รูปภาพมากนัก อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่ควรพิจารณาเมื่อปรับองค์ประกอบมัลติมีเดียให้เหมาะสมสำหรับ SEO ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้แท็ก ‘รูปภาพ’ เหมือนที่เราใช้กับรูปภาพ เราจะใช้แท็ก “วิดีโอ” สำหรับแต่ละรายการในเอกสาร XML ของเรา นอกจากนี้ ควรรวมฟิลด์เพิ่มเติม เช่น ระยะเวลาการเล่นและความละเอียด เพื่อให้ Google ทราบแน่ชัดว่าเนื้อหาสื่อประเภทใดที่จัดทำดัชนีไว้

สุดท้าย เมื่อข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดได้รับการระบุใน SITEMAP วิดีโอแล้ว ก็ถึงเวลาส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังเครื่องมือค้นหาหลัก (Google และ Bing) ผ่านเครื่องมือของผู้ดูแลเว็บ การทำเช่นนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าวิดีโอของคุณได้รับการจัดทำดัชนีอย่างเหมาะสมและได้รับการจัดลำดับความสำคัญในระหว่างการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือหัวข้ออุตสาหกรรมของคุณ – ทำให้ผู้ชม/ผู้ฟังที่มีศักยภาพสามารถมองเห็นได้มากขึ้น!

Sitemap วิดีโอคือการสร้างไฟล์วิดีโอที่อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณ โดยวิดีโอ Sitemap จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ วิดีโอ Sitemap ยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสมากขึ้นในการประสบความสำเร็จในการทำ SEO ด้วยการเพิ่มความน่าสนใจและความเข้าใจง่ายในการเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์

การสร้าง Sitemap วิดีโอสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ลงบนกระดาษหรือไฟล์ Word
2. เขียนสคริปต์หรือโปรแกรมในการสร้างไฟล์วิดีโอ Sitemap โดยใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ หรือ PowerPoint
3. ใส่ข้อความและภาพเคลื่อนไหวเพื่ออธิบายโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณ
4. แต่งแต้มวิดีโอ Sitemap ให้สวยงามและมีความน่าสนใจ
5. เผยแพร่วิดีโอ Sitemap ในช่องทางที่เหมาะสม เช่น YouTube, Vimeo, Facebook หรือเว็บไซต์ของคุณ

การสร้าง Sitemap วิดีโอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ของเว็บไซต์ของคุณและช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหา

SITEMAP ข่าวสาร

เมื่อพูดถึงการนำทางเว็บไซต์  SITEMAP ข่าวเป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่า ช่วยให้ผู้เข้าชมเห็นภาพรวมที่ชัดเจนของเนื้อหาที่มีอยู่บนไซต์ของคุณ และทำให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยโครงสร้างการนำทางที่มีประสิทธิภาพ ผู้ดูของคุณจะมีแนวโน้มที่จะอยู่ได้นานขึ้นและสำรวจหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

สำหรับเว็บไซต์ข่าวโดยเฉพาะ การมี SITEMAP ที่มีการจัดระเบียบอย่างดีสามารถช่วยให้แน่ใจว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะถูกแชร์กับผู้อ่านในที่เดียวที่สะดวก นอกจากนี้ยังช่วยให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่พลาดการอัปเดตที่สำคัญขณะเรียกดูส่วนต่างๆ ของไซต์

นอกจากนี้ หากคุณมีนักเขียนหรือผู้ร่วมให้ข้อมูลหลายคนที่โพสต์เป็นประจำ การมี SITEMAP ข่าวที่ครอบคลุมจะช่วยให้บทความของพวกเขาจัดหมวดหมู่ตามหัวข้อที่เกี่ยวข้องได้อย่างง่ายดาย

ไซต์ข่าวจะต้องมี SITEMAP ที่มีคุณภาพดีเพื่อติดตามเนื้อหาและช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงได้ง่าย การรักษาโครงสร้างนี้ให้ทันสมัยช่วยรับประกันว่าทุกคนจะได้รับข่าวสารล่าสุดโดยไม่ถูกครอบงำด้วยโพสต์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือล้าสมัย

ด้วยการจัดเตรียมองค์ประกอบเหล่านี้อย่างเป็นระบบ คุณจะมั่นใจได้ว่าทั้งผู้เยี่ยมชมใหม่และผู้เยี่ยมชมที่กลับมาจะได้รับสิ่งที่ต้องการจากเว็บไซต์ของคุณทุกครั้งที่เยี่ยมชม

Sitemap ข่าวสารคือการสร้างไฟล์ Sitemap ที่รวมข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสารในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อช่วยให้ Search Engine สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาข่าวสารของคุณได้อย่างง่ายดาย และเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ในขณะที่มีการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น Google News

การสร้าง Sitemap ข่าวสารสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ลงบนกระดาษหรือไฟล์ Word
2. ใช้โปรแกรมสร้าง Sitemap เช่น XML Sitemap Generator หรือ Yoast SEO plugin สำหรับ WordPress เพื่อสร้างไฟล์ Sitemap ของข่าวสาร
3. เพิ่ม URL ของข่าวสารลงในไฟล์ Sitemap โดยมีรูปแบบดังนี้:

phpCopy code<url>
  <loc>http://www.example.com/news/123</loc>
  <news:news>
    <news:publication>
      <news:name>Example News</news:name>
      <news:language>en</news:language>
    </news:publication>
    <news:publication_date>2019-05-01T07:00:00Z</news:publication_date>
    <news:title>Example News Title</news:title>
    <news:keywords>example, news, keywords</news:keywords>
  </news:news>
</url>

• <loc>: ระบุ URL ของข่าวสาร
• <news:news>: ระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร โดยใช้ namespace ของ Google News
• <news:publication>: ระบุชื่อและภาษาของสื่อข่าว
• <news:publication_date>: ระบุวันที่ตีพิมพ์ของข่าวสาร
• <news:title>: ระบุหัวเรื่องของข่าวสาร
• <news:keywords>: ระบุคำสำคัญของข่าวสาร

4. บันทึกไฟล์ Sitemap ของข่าวสารและอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ขอ

SITEMAP มือถือ

เนื่องจากความสำคัญของการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าของเว็บไซต์จึงต้องสร้าง SITEMAP ที่ปรับให้เหมาะสมซึ่งรองรับทั้งผู้ใช้เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่

 SITEMAP สำหรับมือถือมีโครงสร้างและการนำเสนอเนื้อหาที่ชัดเจนซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้เข้าชมบนมือถือ พวกเขาสามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าสถาปัตยกรรมข้อมูลของไซต์ของคุณรองรับประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีในขณะที่ปรับปรุงการจัดอันดับการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO) บนอุปกรณ์มือถือ

การสร้าง SITEMAP ที่เหมาะกับมือถือไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่น่ากังวล เริ่มด้วยการจัดหมวดหมู่เพจของคุณเป็นหัวข้อหรือส่วนต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถระบุความสัมพันธ์ระหว่างเพจต่างๆ

เมื่อสร้างลำดับชั้นระหว่างหน้าต่างๆ ให้พิจารณาว่าผู้ใช้จะนำทางผ่านหน้าเหล่านั้นอย่างไร ผู้ใช้ควรไปที่หน้าใดก่อน องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์คืออะไร? จัดโครงสร้างการนำทางให้เหมาะสม Content SEO

สุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลิงก์ทั้งหมดใน SITEMAP ของคุณนำไปสู่จุดที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ที่จะมีจุดจบ! หากหน้าบางหน้าสัมพันธ์กันได้ดีกว่าหน้าอื่นๆ ให้ลองเชื่อมโยงหน้าเหล่านั้นเข้าด้วยกัน โดยตรงจากภายใน SITEMAP  สิ่งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของผู้ใช้และเพิ่มการมีส่วนร่วมทั่วทั้งไซต์

Sitemap มือถือหมายถึงการสร้างไฟล์ Sitemap ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้กับเว็บไซต์ที่มีรูปแบบ Responsive Design หรือใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ โดย Sitemap มือถือจะช่วยให้ Search Engine สามารถเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างของไซต์

การสร้าง Sitemap มือถือสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ลงบนกระดาษหรือไฟล์ Word
2. ใช้โปรแกรมสร้าง Sitemap เช่น XML Sitemap Generator หรือ Yoast SEO plugin สำหรับ WordPress เพื่อสร้างไฟล์ Sitemap ของเว็บไซต์ของคุณ
3. เพิ่ม URL ของเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ และสร้างเนื้อหาให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนหน้าจอขนาดเล็ก เช่น ลดขนาดภาพให้เหมาะสม และใช้ขนาดตัวอักษรที่เหมาะสม
4. ตรวจสอบ Sitemap มือถือโดยใช้ Google Mobile-Friendly Test เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนอุปกรณ์มือถือหรือไม่
5. บันทึกไฟล์ Sitemap มือถือและอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ของคุณ

การสร้าง Sitemap มือถือจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง

ทำให้ SITEMAP ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ

ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคุณค่าของ SITEMAP ที่เป็นปัจจุบัน การดูแลเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบและใช้งานง่ายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และเครื่องมือค้นหาจะไม่มีปัญหาในการรวบรวมข้อมูลผ่านหน้าเว็บทั้งหมดของคุณ

การรักษา SITEMAP ที่ถูกต้องนั้นเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบลิงก์เสีย เนื้อหาที่ล้าสมัย URL ที่อัปเดต การสร้างหน้าใหม่ และอื่นๆ เป็นประจำ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ทำกับเว็บไซต์ควรแสดงใน SITEMAP ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด

สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจว่าผู้เยี่ยมชมจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เสมอเมื่อสำรวจหน้าเว็บ และยังช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นจากมุมมองทางเทคนิคด้วย

การตรวจสอบ SITEMAP ของคุณเป็นประจำช่วยให้คุณสบายใจได้ว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ตั้งแต่ประสบการณ์ของผู้ใช้ไปจนถึงการจัดทำดัชนีโดยบอทเครื่องมือค้นหา ด้วยวิธีการเชิงรุกแบบนี้ เว็บไซต์ของคุณจะยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยและพร้อมสำหรับสิ่งต่อไป!

การทำให้ Sitemap ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ Search Engine สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ โดยที่ไม่มีข้อมูลหรือ URL ที่หมดอายุหรือไม่มีอยู่แล้ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเป็นที่นิยมของเว็บไซต์ของคุณในการค้นหาผ่าน Search Engine

นี่คือวิธีการทำให้ Sitemap ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ:

1. อัพเดท Sitemap ของคุณอย่างต่อเนื่อง: คุณควรทำการอัพเดท Sitemap ของคุณเมื่อมีการเพิ่มหรือลบเนื้อหาในเว็บไซต์ และอัพเดทไฟล์ Sitemap ของคุณเป็นประจำ เพื่อให้ Search Engine สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง
2. ตรวจสอบ URL ของคุณ: คุณควรตรวจสอบ URL ของคุณในไฟล์ Sitemap เพื่อตรวจสอบว่ามี URL ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีอยู่แล้ว และแก้ไข URL ที่ไม่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุด
3. เพิ่ม Metadata ให้กับ URL ของคุณ: คุณควรเพิ่ม Metadata เช่น last modified, change frequency, priority เพื่อช่วยให้ Search Engine สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาของคุณได้อย่างถูกต้องและตัดสินใจว่าจะเข้าถึง URL ของคุณอย่างไร
4. ใช้ Tool ในการตรวจสอบ: คุณสามารถใช้ Tool ต่าง ๆ เช่น Google Search Console

การส่ง SITEMAP ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหา

เมื่อคุณมี SITEMAP และกำลังปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังเครื่องมือค้นหา การดำเนินการนี้จะทำให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณสามารถพบได้อย่างรวดเร็วโดยผู้ที่ต้องการ ดึงดูดผู้เยี่ยมชมมายังเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ

สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำคือส่ง SITEMAP ของคุณโดยตรงผ่าน Google Search Console ง่ายมาก เพียงลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่มีอยู่หรือสร้างใหม่หากจำเป็น จากนั้นตรงไปที่ ‘ SITEMAP ‘ ใต้ ‘รวบรวมข้อมูล’ บนแผงนำทางด้านซ้าย

จากนั้น ป้อน URL ของไฟล์ xml ของคุณลงในช่องที่มีให้ แล้วคลิก ‘ส่ง’ นั่นคือทั้งหมดที่มี!

เมื่อส่งแล้ว เครื่องมือค้นหา เช่น Google จะใช้บอท (แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์) เพื่อรวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณเป็นระยะๆ เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงหรือการอัปเดตใหม่ๆ นอกจากนี้ คุณควรกลับมาตรวจสอบด้วยตนเองเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างดูดี และไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการจัดทำดัชนีหรือกระบวนการรวบรวมข้อมูล

การทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มองเห็นได้สูงสุดสำหรับเนื้อหาทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งจำเป็นเมื่อพยายามดึงการเข้าชมจากผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

การส่ง Sitemap ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหา เช่น Google Search Console, Bing Webmaster Tools, หรือ Yahoo Site Explorer เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ Search Engine สามารถรับรู้เนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์

นี่คือวิธีการส่ง Sitemap ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหา:

1. ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ของคุณกับ Google Search Console, Bing Webmaster Tools, หรือ Yahoo Site Explorer
2. เพิ่มเว็บไซต์ของคุณโดยใช้ URL ของเว็บไซต์ของคุณ
3. ดาวน์โหลดไฟล์ Sitemap ของคุณจากเว็บไซต์ของคุณ
4. เลือกที่ Sitemap จากเมนูหรือส่วนของเครื่องมือค้นหาที่เหมาะสม และอัพโหลดไฟล์ Sitemap ของคุณ
5. ตรวจสอบการส่ง Sitemap ของคุณผ่านเครื่องมือค้นหา และตรวจสอบสถานะการประมวลผลของ Sitemap ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าการส่ง Sitemap ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหาได้อย่างถูกต้อง

การส่ง Sitemap ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหาจะช่วยให้ Search Engine สามารถรับรู้เนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ และช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ

การแก้ไขปัญหา SITEMAP ทั่วไป

การมี SITEMAP เป็นส่วนสำคัญของทุกเว็บไซต์ ช่วยนำผู้เยี่ยมชมไปยังเนื้อหาที่ถูกต้อง และช่วยให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าการมี SITEMAP จะเป็นประโยชน์ แต่ก็มีปัญหาบางอย่างที่คุณควรระวังเมื่อใช้ SITEMAP  เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาทั่วไปบางประการที่คุณอาจพบเจอ Internal Linking

ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือการไม่รวมหน้าทั้งหมดบนเว็บไซต์ของคุณใน SITEMAP  หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ผู้เข้าชมอาจพบลิงก์เสียหรือหน้าเว็บที่ปิดไม่ได้เมื่อนำทางไปรอบๆ ไซต์ของคุณ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะไม่มีผลลัพธ์ที่ดี! เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบอีกครั้งว่าได้รวมทุกอย่างไว้ในแผนที่แล้วก่อนที่จะเผยแพร่ทางออนไลน์

อีกปัญหาหนึ่งที่เป็นไปได้คือ URL ที่ซ้ำกันซึ่งแสดงอยู่ใน SITEMAP  ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงเห็นรายการที่ซ้ำกัน และอาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่ไม่ถูกต้อง วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละ URL ปรากฏเพียงครั้งเดียวในเอกสาร Google Search Console

นอกจากนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนเส้นทางใดๆ ที่คุณตั้งค่าไว้ยังคงชี้ผู้คนไปยังปลายทางที่พวกเขาตั้งใจไว้โดยไม่ทำให้เกิดความสับสนตามมา

การแก้ไขปัญหา Sitemap ทั่วไปเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้ Search Engine สามารถรับรู้เนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นี่คือวิธีการแก้ไขปัญหา Sitemap ทั่วไป:

1. ตรวจสอบไฟล์ Sitemap ของคุณ: คุณควรตรวจสอบไฟล์ Sitemap ของคุณเพื่อตรวจสอบว่ามี URL ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีอยู่แล้ว และแก้ไข URL ที่ไม่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุด
2. ตรวจสอบขนาดของไฟล์: คุณควรตรวจสอบขนาดของไฟล์ Sitemap ของคุณว่ามีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่ หากมีขนาดใหญ่เกินไป คุณควรแยกไฟล์ Sitemap ออกเป็นหลายไฟล์เพื่อลดขนาดของไฟล์ Sitemap
3. ตรวจสอบ URL ของคุณ: คุณควรตรวจสอบ URL ของคุณในไฟล์ Sitemap เพื่อตรวจสอบว่ามี URL ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีอยู่แล้ว และแก้ไข URL ที่ไม่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุด
4. อัพเดท Sitemap ของคุณ: คุณควรทำการอัพเดท Sitemap ของคุณเมื่อมีการเพิ่มหรือลบเนื้อหาในเว็บไซต์ และอัพเดทไฟล์ Sitemap ของคุณเป็นประจำ เพื่อให้ Search Engine สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง
5. ตรวจสอบการส่ง Sitemap ของคุณ: คุณควรตรวจสอบสถานะ

บทสรุป

ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา ฉันมักถูกถามเกี่ยวกับความสำคัญของ SITEMAP  ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของรากฐานของเว็บไซต์ใดๆ

ความจริงก็คือการสร้างและดูแล SITEMAP ที่ดีสามารถช่วยให้แน่ใจว่าไซต์ของคุณได้รับการจัดทำดัชนีอย่างถูกต้องโดยเครื่องมือค้นหา และท้ายที่สุดจะปรับปรุงการแสดงผลทางออนไลน์

เมื่อต้องอัปเดต SITEMAP  สิ่งสำคัญคือต้องอัปเดตเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือเนื้อหาของเว็บไซต์ การดำเนินการนี้จะช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนไซต์ของคุณ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้สร้าง SITEMAP ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการนี้ง่ายกว่าที่เคยเป็นมา

สุดท้าย เมื่อส่ง SITEMAP ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหา โปรดจำไว้ว่าขนาดมีความสำคัญ! แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคืออย่าให้เกิน 50,000 URL ต่อไฟล์และรวม 500,000 URL เพื่อให้ไฟล์ของคุณมีขนาดเล็กเพียงพอสำหรับการประมวลผลที่ง่ายดาย

เมื่อคำนึงถึงเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว คำแนะนำของฉันคือการสร้างและดูแล SITEMAP ที่มีประสิทธิภาพให้เป็นองค์ประกอบหลักของกลยุทธ์ SEO ของคุณ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การมีหนึ่งรายการหมายถึงการสร้างดัชนีที่แม่นยำยิ่งขึ้นโดยเครื่องมือค้นหาและการแสดงผลที่ดีขึ้นสำหรับหน้าเว็บของคุณ!

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ Sitemap

SITEMAP ของฉันควรอัปเดตบ่อยเพียงใด

การปรับปรุง SITEMAP ให้ทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ การรู้ว่าต้องอัปเดตบ่อยแค่ไหนอาจเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม คุณคงไม่อยากทำงานที่ไม่จำเป็น!

โดยทั่วไปแล้ว ความถี่ของการอัปเดตควรขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณอย่างรวดเร็ว หากมีการเพิ่มโพสต์หรือหน้าใหม่เป็นประจำ การอัปเดต SITEMAP บ่อยขึ้นก็สมเหตุสมผล ในทางกลับกัน หากเนื้อหาค่อนข้างคงที่เมื่อเวลาผ่านไป การอัปเดตที่น้อยลงก็อาจเพียงพอแล้ว

ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณและเว็บไซต์ของคุณ ทั้งในแง่ของความสะดวกและการเพิ่มประสิทธิภาพ

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า Sitemap ของฉันมีประสิทธิภาพ

การรู้ว่า SITEMAP ของคุณมีประสิทธิภาพหรือไม่อาจเป็นความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวใน SEO

เพื่อกำหนดประสิทธิภาพ ให้ติดตามการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อค้นหารูปแบบที่บ่งชี้ถึงผลกระทบเชิงบวกหรือเชิงลบต่อประสิทธิภาพ

ตรวจสอบข้อมูล Google Search Console เพื่อตรวจสอบจำนวนหน้าที่จัดทำดัชนี ตลอดจนปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลและการจัดทำดัชนี

นอกจากนี้ ให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics หรือ Bing Webmaster Tools เพื่อดูว่ามีผู้เข้าชมกี่คนที่มาถึงแต่ละหน้าจากผลการค้นหาทั่วไป

สุดท้าย ตรวจสอบแนวโน้มการเข้าชมเป็นประจำเพื่อประเมินว่าการมองเห็นเว็บไซต์โดยรวมดีขึ้นหรือลดลง

มีวิธีสร้าง SITEMAP โดยอัตโนมัติหรือไม่

การสร้าง SITEMAP อาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ แต่มีเครื่องมือที่พร้อมช่วยให้งานเป็นแบบอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องทำเองทั้งหมด

 SITEMAP อัตโนมัติเหล่านี้จะสร้างไฟล์ XML ของหน้าและเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งทำให้เครื่องมือค้นหาสามารถจัดทำดัชนีได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วได้ง่ายขึ้น

การทำให้กระบวนการนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติจะต้องอาศัยการทำงานหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง SITEMAP ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

มีข้อจำกัดใดๆ เกี่ยวกับขนาดของ SITEMAP หรือไม่

เมื่อสร้าง SITEMAP  สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงข้อจำกัดที่อาจมาพร้อมกับขนาดของแผนที่ ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ของคุณและจำนวนหน้าที่คุณมี อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวน URL ที่อนุญาตในไฟล์ SITEMAP ไฟล์เดียว

โดยทั่วไปแล้ว  SITEMAP ไม่ควรเกิน 50 MB หรือ 50,000 รายการ URL ต่อไฟล์ ขอแนะนำให้มีไฟล์หลายไฟล์สำหรับส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ หากคุณต้องการมากกว่าจำนวนเหล่านี้

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือหน้าเว็บแต่ละหน้าที่แสดงอยู่ใน SITEMAP ของคุณไม่ควรมีขนาดเกิน 10MB การติดตามขีดจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้แน่ใจว่า SITEMAP ของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

วิธีที่ดีที่สุดในการส่ง SITEMAP ไปยังเครื่องมือค้นหาคืออะไร

การส่ง SITEMAP ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหาเป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาเว็บไซต์ วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าหน้าเว็บของคุณได้รับการจัดทำดัชนีอย่างถูกต้องคือการใช้โปรแกรม เช่น Google Search Console, Bing Webmaster Tools หรือ Yandex Webmaster

โปรแกรมเหล่านี้อนุญาตให้คุณส่งลิงก์ไปยังเวอร์ชัน XML ของ SITEMAP ของคุณโดยตรง เพื่อให้บอทเครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ หากคุณมีหน้าเดียวกันหลายเวอร์ชันใน URL ที่แตกต่างกัน (เช่น โดเมน www กับโดเมนที่ไม่มี www) เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้แน่ใจว่ารูปแบบทั้งหมดได้รับการจัดทำดัชนี